เพราะมนุษย์เปราะบางเราถึงอยู่รอด

November 27, 2025

รู้หรือไม่ว่ามนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ถูกธรรมชาติบังคับให้คลอดก่อนกำหนด แบบก่อนกำหนดไปมากเมื่อเทียบกับสัตว์อื่นๆ การที่เราครองโลกได้ทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะเราดีที่สุด แต่เพราะ "กระจอก" และ"เปราะบาง" สุดๆ ต่างหาก เราจนต้องสร้างระบบที่เรียกว่า "สังคม" ขึ้นมาชดเชย

ในเชิงวิวัฒนาการ มันมีสิ่งที่เรียกว่า "The Obstetrical Dilemma" การการที่มนุษย์เรามีการวิวัฒนาการที่ขัดแย้งกันอยู่ คือเราอยากได้หลายอย่าง เราอยากเดิน 2 ขา ซึ่งต้องอาศัยการทำให้กระดูกเชิงกรานบีบแคบลงเพื่อการทรงตัว เราดันไม่พอแค่นั้นอยากฉลาดอีก สมองเลยต้องใหญ่ ดังนั้นกะโหลกเลยต้องใหญ่ไปด้วย

พอเป็นแบบนี้มันเลยขัดแย้งกัน เพราะกระโหลกเราใหญ่ตั้งแต่ทารกจะมุดออกจากช่องคลอดของแม่ได้ยังไง ธรรมชาติเลยแก้ปัญหาด้วยการให้พวกเรามุดออกมาตอนที่หัวยังไม่ใหญ่เกินช่องคลอดของแม่ ซึ่งพอเป็นแบบนี้ให้ทารกมนุษย์ทุกคนเกิดมาในสภาพ "ยังไม่เสร็จ" หรือที่เรียกว่า Secondary Altriciality

ลองเทียบกับลูกม้าที่เกิดปุ๊บเดินได้ปั๊บ ลูกจิ้งโจ้ที่อยู่ในกระเป๋าหน้าท้อง หรือลูกลิงที่ถูกออกแบบมาให้เกาะแม่แน่นๆ ทั้งหมดเพื่อความอยู่รอด แต่สิ่งเดียวที่ลูกคนทำได้คือแค่ร้องไห้ แถมสมองเราตอนเกิดมีขนาดแค่ 25% ของผู้ใหญ่เอง ของสัตว์อื่นๆ เกิน 50% กันเลยนะ เราเลยต้องการเวลาดูแลนอกท้องแม่นานกว่าสัตว์อื่นหลายเท่าตัวกว่าจะรอดเองได้

ความเปราะบางนี้มันบังคับให้มนุษย์แม่เลี้ยงลูกคนเดียวไม่ได้ ไม่ได้แบบ Biological Impossibility หมายถึงแม่สมัยก่อนที่ใช้ชีวิตในป่าดึกดำบรรพ์นะ ดังนั้นมนุษย์เราเลยต้องวิวัฒนาการมาเป็น Cooperative Breeders หรือสัตว์ที่ต้องช่วยกันเลี้ยงลูก มันไม่ใช่แค่เรื่องน้ำใจผู้ให้ผู้รับ แต่มันคือความเป็นความตายของเผ่าพันธุ์ เพราะถ้าไม่มีพ่อแม่ทดแทน  (Alloparents) คอยช่วยหาอาหาร เด็กที่เกิดใหม่คงตานหมด เราคงสูญพันธุ์แน่ๆ

นอกจากนี้มันมี "Grandmother Hypothesis" ที่อธิบายว่าทำไมมนุษย์ผู้หญิงถึงวัยหมดประจำเดือน (Menopause) แล้ว แต่อายุยังยืนยาวต่อ ไม่รีบตายเหมือนสัตว์อื่นๆ เขาบอกก็เพราะว่าผู้หญิงเหล่านี้จะได้ผันตัวไปเป็นยายมีแรงและเวลามาช่วยเลี้ยงหลาน เพิ่มโอกาสรอดให้สายเลือดตัวเองยังไงล่ะ

จากความจำเป็นทางชีววิทยาที่ "ต้องพึ่งพากัน" มันเลยขยายสเกลจากคนช่วยเลี้ยงลูก -> กลายเป็นบรรทัดฐานสังคม -> เป็นวัฒนธรรม -> จนถึงกฎหมาย/สวัสดิการของรัฐที่แม่ต้องได้รับการช่วยเหลือเมื่อมีลูก ดังนั้น Cultureในอีกนัยหนึ่งมันคือ "อุปกรณ์ช่วยชีวิต" (Survival Mechanism) ที่งอกออกมาทดแทนเขี้ยวคมๆ เล็บยาวๆ ที่เราไม่มีแบบสัตว์อ่ะ

ดังนั้นเราไม่ได้รอดเพราะเราแข็งแกร่งที่สุดในห่วงโซ่อาหาร แต่เรารอดเพราะเรา "อ่อนแอ" จนต้องรวมกลุ่มกันทั้งโลกให้แน่นที่สุดต่างหาก ความเปราะบางของทารก คือจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมมนุษย์ พลังของความเชื่อ"คนเดียวหัวหาย" นี่แหละที่พาเรามาถึงจุดนี้ ดังนั้นรักกันไว้เถิดนะ

Labels: ,